World Class Management หรือเรียกย่อๆ ว่า WCM คือการนำจุดเด่น ของ 4 โมเดลมาใช้งาน อันประกอบด้วย
1) TQM (Total Quality Management) เป็นโมเดลการบริหารคุณภาพแบบครบวงจร
2) TPM (Total Production Maintenence) เป็นโมเดลการบริหารการบำรุงรักษาแบบครบองค์กร
3) TPS (Toyota Production System) มุ่งเน้นการทำงานแบบไร้สต๊อก
4) LEAN การบริหารประสิทธิภาพโดยลดความสูญเปล่า
WCM ไม่ใช่การปรับตัวสู่ความหรูหรา แต่เป็นการยกระดับการทำงานใ้หเทียบเท่าระดับสากล ส่วนประกอบหรือปัจจัยที่ต้องทำเพื่อให้ WCM เป็นจริง มีด้วยกัน 5 หมวดหมู่
หมวดหมู่ที่ 1 ระบบพื้นฐาน การวางระบบพื้นฐานให้แน่น ให้มอง 3 มิติดังนี้
มิติที่ 1 คือ การควบคุมวัตถุดิบ วัตถุดิบเป็นปัจจัยแรกที่เราต้องจัดการควบคุมให้รัดกุม
มิติที่ 2 คือ การติดตามลูกค้า วัดความพึงพอใจทางตรงและทางอ้อม
มิติที่ 3 คือ การพัฒนาเครื่องมือ และระบบที่จำเป็น
หมวดหมู่ที่ 2 โครงการสำคัญเป็นโครงการเสริม มีด้วยกัน 3 อย่าง คือ
1) 5 ส. เป็นพื้นฐานอันดับแรกในการทำงานระบบทุกชนิด
2) มีไคเซ็น เน้นการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานมากกว่าการลงทุน
3) เป็นงานหลายชนิด ในการบริหารการผลิต ต้องการความยืดหยุ่น พนักงานต้องมีศักยภาพในการทำงานได้รอบด้าน สิ่งที่จำเป็นในการทำโครงการนี้คือ ระบบการฝึกอบรมที่ดี ที่มีการวางแผนและติดตามผลเป็นอย่างดี
หมวดหมู่ที่ 3 ทีมงาน 2 ชั้น การทำงานใหญ่ๆ ให้สำเร็จ ต้องวางกลยุทธ์ในการทำทีมให้ดี โดยแบ่งเป็นทีมงานปัจจุบันและทีมงานเพื่ออนาคต
หมวดหมู่ที่ 4 สื่อสารต่อเนื่อง การสื่อสารสามารถทำเป็นระบบโดยใช้หลักการ PDCA
มุมมองหนึ่งที่เป็นเคล็ดลับในการก้าวสู่ระดับเวิลด์คลาสก็คือ ลูกค้า สิ่งที่วัดความพึงพอใจของลูกค้า มีอยู่ 3 ตัวหลัก คือ
1) Quality
2) Cost
3) Delivery
1) TQM (Total Quality Management) เป็นโมเดลการบริหารคุณภาพแบบครบวงจร
2) TPM (Total Production Maintenence) เป็นโมเดลการบริหารการบำรุงรักษาแบบครบองค์กร
3) TPS (Toyota Production System) มุ่งเน้นการทำงานแบบไร้สต๊อก
4) LEAN การบริหารประสิทธิภาพโดยลดความสูญเปล่า
WCM ไม่ใช่การปรับตัวสู่ความหรูหรา แต่เป็นการยกระดับการทำงานใ้หเทียบเท่าระดับสากล ส่วนประกอบหรือปัจจัยที่ต้องทำเพื่อให้ WCM เป็นจริง มีด้วยกัน 5 หมวดหมู่
หมวดหมู่ที่ 1 ระบบพื้นฐาน การวางระบบพื้นฐานให้แน่น ให้มอง 3 มิติดังนี้
มิติที่ 1 คือ การควบคุมวัตถุดิบ วัตถุดิบเป็นปัจจัยแรกที่เราต้องจัดการควบคุมให้รัดกุม
มิติที่ 2 คือ การติดตามลูกค้า วัดความพึงพอใจทางตรงและทางอ้อม
มิติที่ 3 คือ การพัฒนาเครื่องมือ และระบบที่จำเป็น
หมวดหมู่ที่ 2 โครงการสำคัญเป็นโครงการเสริม มีด้วยกัน 3 อย่าง คือ
1) 5 ส. เป็นพื้นฐานอันดับแรกในการทำงานระบบทุกชนิด
2) มีไคเซ็น เน้นการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานมากกว่าการลงทุน
3) เป็นงานหลายชนิด ในการบริหารการผลิต ต้องการความยืดหยุ่น พนักงานต้องมีศักยภาพในการทำงานได้รอบด้าน สิ่งที่จำเป็นในการทำโครงการนี้คือ ระบบการฝึกอบรมที่ดี ที่มีการวางแผนและติดตามผลเป็นอย่างดี
หมวดหมู่ที่ 3 ทีมงาน 2 ชั้น การทำงานใหญ่ๆ ให้สำเร็จ ต้องวางกลยุทธ์ในการทำทีมให้ดี โดยแบ่งเป็นทีมงานปัจจุบันและทีมงานเพื่ออนาคต
หมวดหมู่ที่ 4 สื่อสารต่อเนื่อง การสื่อสารสามารถทำเป็นระบบโดยใช้หลักการ PDCA
- เขียนรายงานที่ควรสื่อสาร ออกมาเป็นข้อๆ
- กำหนดวิธีการสื่อสารให้ชัดเจน ใช้สื่ออะไรในการสื่อสาร
- กำหนดความถี่ในการสื่อสาร
- กำหนดผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วน
- มีการตรวจสอบประเมินผลการสื่อสาร
- มีมาตรการ ถ้าไม่ได้ผล
มุมมองหนึ่งที่เป็นเคล็ดลับในการก้าวสู่ระดับเวิลด์คลาสก็คือ ลูกค้า สิ่งที่วัดความพึงพอใจของลูกค้า มีอยู่ 3 ตัวหลัก คือ
1) Quality
2) Cost
3) Delivery
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น